รีวิวศัลยกรรมจมูกแบบละเอียด + เคล็ดลับในการดูแลให้สวยคืนไวๆ
สวัสดีค่ะทุกคนน Snowwyprae คนเดิม
เพิ่มเติมคือมีดั้งใหม่แล้ววว 55555
วันนี้ก็จะมาเขียนประสบการณ์การทำจมูกของแพรให้ชมกันแบบละเอียดยิ๊บบ
ก่อนอื่นขอออกตัวเลยว่า นี่เป็นการศัลยกรรมครั้งแรกของแพร
ถ้ามีอะไรผิดพลาดไป ต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ
ภาพสมัยม.ปลายใสๆค่ะ |
ทำไมถึงอยากทำจมูก?
คำตอบคือ ไม่มีดั้งค่า เรียกได้ว่าแบนแต๊ดแต๋เลยก็ว่าได้
พ่อแม่ก็มีดั้งนะ แต่ทำไมแพรไม่มีก็ไม่รู้ ฮืออ
จากรูปก่อนหน้านี้ ที่แพรมีดั้ง นั่นคือพลังของเมคอัพล้วนๆค่ะ
ไล้ดั้งหนักมาก แต่มองข้างๆคือพังทันที หน้าแบนเป็นราบกลอง 555 แต่ก็คือ ไม่ได้อยากให้มันโด่งแบบ
โด่งเว่อร์ไรงี้ เพราะสุดท้ายแล้ว เราก็ยังมีเมคอัพอยู่ เวลาเราแต่งหน้าออกมา
จากที่ไม่มีดั้ง แล้วแต่งออกมามีดั้ง มันจะรู้สึกภาคภูมิใจมากๆ เลยตัดสินใจทำแบบไม่โด่งเกินไปค่ะ
ทำที่ไหน ทำไม ถึงเลือกทำที่นี่ ?
แพรทำที่คลินิก ศัลยกรรมตกแต่งพหลโยธินค่ะ
ทำกับคุณหมอ ธงชัย
ลิมปวัฒนศิริ
ปกติคุณหมอจะประจำอยู่ที่
โรงพญาบาลพญาไท 2 คนแนะนำคือคุณแม่ของแพรเองค่ะ แม่แพรเป็นพยาบาลวิชาชีพ
นางเลยจะรู้วงในดีว่าหมอคนไหนงานดี คนไหนงานเนี๊ยบบ ซึ่งแม่แพร อวยยยหมอธงชัยมากกก
นางบอกว่า คนนี้งานเนี๊ยบสุดไรสุด เห็นมากับมือ เข้าห้องผ่าตัดมาด้วยกันแล้ว แพรก็เลย เอาวะ แม่บอกมางี้ งั้นก็ทำที่นี่แหละ 5555
การเตรียมตัวก่อนทำจมูก
นี่ก็ศึกษาตามอินเตอร์เนต
เค้าบอกว่าห้ามกินวิตามินบำรุง พวกน้ำมันตับปลาไรงี้
เพราะจะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด บลาๆ นี่ก็เชื่อไว้ก่อน งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1สัปดาห์ก่อนทำจมูก ในวันทำจมูกก็ จัดการแคะขี้มูก เล็มขนจมูกให้เรียบร้อย แล้วก็อย่าลืมจัดการเตรียมของเอาไว้สำหรับการใช้ชีวิตประจำหลังทำจมูกค่ะ
นัดหมด ดูหน้า ดูทรงจมูก
อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าคลินิกอื่นมีการนัดดูโครงหน้าก่อนการผ่าตัดรึเปล่า
แต่ของแพรคือ แพรไปหาคุณหมอก่อนผ่า 1 สัปดาห์ ให้หมอจับๆคลำๆจมูกของเรา คุณหมอก็จะดูทรงให้ ว่าแบบ โครงหน้าแบบนี้ ทรงนี้เหมาะนะ แบบนี้จะไม่ค่อยเหมาะนะ แพรเลยบอกคุณหมอว่า เอาแบบธรรมชาติค่ะ เอาแบบที่ทำมาแล้ว คนจับไม่ได้ว่าทำ 5555
ลืมบอกไปเลยค่ะ คลินิกของคุณหมอ คุณหมอจะเป็นคนเหลาซิลิโคนเองนะคะ
เลยจะไม่มีทรงตายตัวแบบคลินิกอื่นๆ ซิลิโคนของแพรเป็นของญี่ปุ่น เหตุผลที่คุณหมอนัดให้ไปดูหน้าก่อน 1 สัปดาห์ เพราะว่าต้องเผื่อเวลาเอาไว้ให้คุณหมอเหลาซิลิโคน
ก่อนทำการผ่าตัดค่ะ
ทายาชา ตอนนั้นหน้าตาเหลอหลามาก 555 |
ความรู้สึกตอนกำลังขึ้นเขียงงง
ก็ไปถึงก่อนหมอนัดประมาณครึ่งชม.ค่ะ แพรทำจมูกวันที่ 9 พ.ค ประมาณ 4
โมงเย็น
หลังจากนั้นเค้าก็เอายามาทา แพรจำชื่อตัวยาไม่ได้ แต่แม่บอกว่าเป็นยาชา เวลาฉีดยา
จะได้ไม่เจ็บ ทายาแล้วก็เปลี่ยนเสื้อเปลี่ยนกางเกง ไปล้างหน้าด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ
แล้วก็ขึ้นเตียงผ่าตัดค่ะ นี่อ่านมาเยอะมากกก ว่าตอนฉีดยาชาจะเจ็บมากก แต่ของแพรคือ
ไม่เจ็บเลยซํกนิด!!! เจ็บแค่มดกัดจิ๊ดด เหมือนตอนฉีดยา แต่ไม่ได้เจ็บแบบโอ๊ยย
น้ำตาไหล คุณหมอมือเบามากก มากแบบมากจริงๆ คือประณีตตั้งแต่การพับผ้ามาปิดหน้าเราเลยค่ะ ใช้เวลาทำประมาณ 1 ชม.ครึ่ง คือละเอียดจริง ตอนทำจมูก แพรเผลอหลับไปจนคุณหมอทำเสร็จเลยค่ะ
555
ดูแลหลังทำจมูกยังไง
หลังทำจมูก คุณหมอก็ให้ยามาให้เรากิน
แล้วก็ให้เจลประคบเย็นมาให้เราประคบตลอด 48
ชม.หลังจากทำ
แต่มันยังไม่พอค่ะ!!! อยากสวยไว ต้องมีตัวช่วยย
1.
Reparil-Gel
2.
น้ำมะพร้าวสด
3.
แคปซูลน้ำมะพร้าวสกัดเย็น
4.
น้ำใบบัวบก
5.
หมอนรองคอ
หลังทำจมูกเสร็จ แพรประคบเย็นทันทีหลังทำเลยค่ะ 3 วันแรก คือประคบตลอด มีเจลเย็น 4 ชิ้น แช่ตู้เย็นเอาไว้เลย แล้วก็นอนหมอนสูง ไม่นอนตะแคง กันจมูกเบี้ยว
เรียกได้ว่าปวดคอมากกก ทรมานในการทำจมูกไม่ใช่เจ็บแผลนะคะ
แต่เป็นการนอนหมอนสูงๆนี่แหละค่ะ 5555
Reparil-Gel
ตัวนี้ช่วยในเรื่องรอยช้ำ รอยแดง
แต่ใครที่หน้าแพ้ง่าย ไม่แนะนำนะคะ
ใช้ตัวนี้ทาแล้ว ผลข้างเคียงอาจจะทำให้ผิวลอกได้ค่ะ
น้ำใบบัวบก
ขวดนี้ก็หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป
สรรพคุณจะช่วยลดอาการช้ำใน
เหมือนเป็นยาแผนโบราณ
ใครกินเป็นก็ดีไป
แต่แพร ตอนกินนี่ กล้ำกลืนฝืนใจกินสุดๆ เหม็นเขียวมากก
แคปซูลน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นของ Mermaid
ตัวนี้แพรกินหลังจากที่ขี้เกียจหาซื้อน้ำมะพร้าวแล้วใครที่ไม่ชอบน้ำมะพร้าว
เพราะว่าเหม็น (พี่สาวแพรคนนึงกินไม่ได้เลย)
ก็กินตัวนี้แทนได้ค่ะ ตัวนี้มันอยู่ในรูปแคปซูลเจล ไม่มีกลิ่น
อยากบอกว่าตัวนี้กินแล้วชอบมากกก
คือสรรพคุณมันไม่ใช่แค่ลดบวม จริงๆแล้วสรรพคุณน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นคือ มีหลายอย่างมากๆๆ กินแล้วช่วยเรื่องผม เรื่องผิวด้วย
จนตอนนี้ หน้ายุบแล้วก็ยังกินต่อค่ะ
อาหารการกิน
วันแรกๆแพรกินเป็นของอ่อนๆ งดอาหารแสลง
จริงๆจะให้กินหนักๆก็กินได้นะคะ
การกินไม่ใช่อุปสรรคค่ะ 555
ไปดูวิวัฒนาการหลังทำจมูกกันเลยดีกว่า
ภาพนี้คือหลังทำเสร็จ
สดๆร้อนๆเลยค่า
หัวตาตึงๆ ในรูปคือหัวตามันดูจิกๆเลย
ตรงสันระหว่างคิ้วเริ่มมีความบวม
หลังทำเสร็จซัก
3 ชม. จะเริ่มปวดๆแล้วค่ะ
แต่เคสของแพรไม่ได้ปวดแบบทรมาน
ปวดในเลเวลพอทนไหว ตอนดัดฟันครั้งแรกเหมือนจะปวดกว่านี้อีกค่ะ
ตื่นมาส่องกระจก
แล้วแบบ ช็อคมากกก
มีความน้ำตาคลอเบาๆ
หน้าบวมมากก เป็นนาร์เนียเลย
หัวตามีรอยช้ำแดงๆนิดหน่อย หลับตาไม่ค่อยสนิท อาจจะเพราะตึงๆ
บริเวณจมูก สันคิ้ว หน้าผาก คือบวมเต่งเลย
หัวตาจะเห็นว่า บวมสุดๆ มีรอยแดงนิดๆ |
วันที่ 2
ไม่ต่างจากวันแรกมากนัก
มีความหน้าบวมมากก
ไม่ใช่บวมแค่ตรงจมูกอย่างเดียว
คือมันเต่งไปทั้งหน้าเลยค่ะ
หน้าเหมือนอมมะนาวไว้
5 ลูก 5555
วันที่ 3
หน้ายังบวมอยู่ค่ะ
แต่ตรงหัวตาเริ่มยุบ
หนังตาบนไม่ตกแล้ว ด้วยความที่ปกติแพรเป็นคนที่หน้ามันอยู่แล้วยิ่งทำจมูก ไม่ได้ล้างหน้าด้วยโฟมเลย (เช็ดแค่น้ำเกลือ)
ทำให้หน้ามันกว่าเดิมหลายเท่ามากๆ
พลาสเตอร์เลยหลุดออกเองไปเลย
วันที่ 4
หน้าเริ่มยุบแล้วค่ะ
หลังวันที่ 4 จะมีบวมๆก็ตรงสันคิ้ว
กับรอบจมูก สันจมูกตอนนี้ยังบวมอยู่ค่ะ
แต่ก็ถือว่ายุบไปเยอะมาก เมื่อเทียบกับหน้า วันที่ 1
วันที่ 5
อุดอู้เก็บตัวอยู่ในบ้านมานาน
วันที่ 5 ออกจากบ้านแล้วค่า
แต่ยังไม่กล้าแต่งหน้า
เลยเขียนคิ้วอย่างเดียว
ออกจากบ้านก็หามาร์สมาใส่
กันฝุ่น ควันตามท้องถนนเข้าจมูกก่อน
วันที่ 7
เริ่มเห็นสโลปตรงจมูกชัดมากขึ้น
หน้ายังบวมอยู่นิดๆหน่อย
แต่ส่วนตัวคิดว่า 1สัปดาห์ได้เท่านี้
ถือว่าหายบวมไวมากก
วันที่ 11
เริ่มแต่งหน้า
ทำงานได้แล้วค่า
ภาพนี้ถ้าไม่ดูดีๆคือไม่รู้เลยว่าพึ่งทำจมูก แต่ตรงสันคิ้ว โหนกแก้มใต้ตายังบวมๆอยู่หน่อยๆ
แต่งหน้าก็อย่าลงบริเวณจมูกเยอะค่ะ
จะลำบากตอนเช็ดออก
วันที่ 18
เห็นเป็นสันชัดมากขึ้น
หน้ายุบเกือบหมดแล้ว
จมูกไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ
แต่งหน้า ล้างหน้าได้ตามปกติทุกอย่าง
แพรไปให้คุณหมอดูอีกครั้ง
คุณหมอบอกว่ายังบวมอยู่หน่อยๆ
ถ้าหายบวมแล้ว จะเห็นดั้งชัดกว่านี้
Before & After
จะเห็นได้ชัดว่าต่างกันมากกกก
ตอนนี้เชื่อแล้วค่ะว่าทำจมูกมาแล้วจะหน้าเปลี่ยน
หลังทำก็มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นค่ะ
หันข้างก็มั่นใจแล้ว
เพราะว่ามีดั้งกับคนอื่นแล้ว อิอิ
ตอนนี้จะมุมตรง มุมข้างๆ มุมไหน ก็กล้าถ่าย
ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 10 มิ.ย ก็ประมาณหลังทำจมูก 1 เดือน
ปกติจมูกจะเข้าที่หลังทำจมูกก็ประมาณ 2-3 เดือนค่ะ
แต่ทรงตอนนี้ถือว่าพอใจมากๆแล้ว
ใครที่อยากทำศัลยกรรม ก็อยากแนะนำว่า ให้ศึกษาคลินิก และแพทย์ให้ดีๆ
อย่าเชื่อแต่ภาพ หรือ คำ โฆษณา เพราะสมัยนี้มีการซื้อขายภาพศัลยกรรมเยอะมากก ที่สำคัญอีกเรื่องคือ อย่าเห็นแก่ของถูกค่ะ
ไม่ใช่ว่าของถูกไม่ดีนะคะ แต่ถ้าเป็นของถูก ก็อยากให้ศึกษาดูให้ดีๆ
เพราะไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับร่างกายเรา ยิ่งบริเวณหน้าเรา
เราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ทำเสียไปแล้ว เจ็บใจไม่พอ ต้องเจ็บตัวแก้อีก
วันนี้แพรก็ขอตัวจบการรีวิวทำจมูกเพียงเท่านี้
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจจะทำจมูกนะคะ สวัสดีค่า
ขอบคุณค่ะ ทำให้เข้าใจอาการบวมในแต่ละช่วงชัดเจน การดูแลตนเอง ชอบค่ะ
ตอบลบ